สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯที่ชาวต่างชาติชอบไป

โดย : นาย ธนัท นาคกิติกูล 48610111
น.ส.กรรณิกา แก้วกรต 48610124
น.ส.นริศรา เกตุสินรังสรรค์ 48610136
น.ส.ภัทราวรรณ ชุลเฟื่อง 48610151
นาย ณัฐพล ปลื้มกมล 48610154


วัดพระศรีรัตนศาสดาราม




วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดพระแก้ว นั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๕ แล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๓๒๗

เป็นวัดที่สร้างขึ้นในเขตพระบรมมหาราชวัง ตามแบบวัดพระศรีสรรเพชญ สมัยอยุธยา วัดนี้อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ทางทิศตะวันออก มีพระระเบียงล้อมรอบเป็นบริเวณ เป็นวัดคู่กรุงที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ใช้เป็นที่บวชนาคหลวง และประชุมข้าทูลละอองพระบาทถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา

รัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าให้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกต พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทย มาประดิษฐาน ณ ที่นี้ วัดพระศรีรัตนศาสดารามนี้ ภายหลังจากการสถาปนาแล้ว ก็ได้รับการปฏิสังขรณ์สืบต่อมาทุกรัชกาล เพราะเป็นวัดสำคัญ จึงมีการปฏิสังขรณ์ใหญ่ทุก ๕๐ ปี คือในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน

เนื่องในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบ ๒๐๐ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ที่ผ่านมา การบูรณปฏิสังขรณ์ที่ผ่านมา มุ่งอนุรักษ์สถาปัตยกรรมและศิลปกรรมอันเป็นมรดกชิ้นเอกของชาติ ให้คงความงามและรักษาคุณค่าของช่างศิลปไทยไว้อย่างดีที่สุด เพื่อให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามนี้อยู่คู่กับกรุงรัตนโกสินทร์ตลอดไป

หลังจากที่ได้รู้ประวัติความเป็นมาของวัดพระศรีรัตนศาสดารามพอสังเขปแล้ว ต่อไปเราจะมาอธิบายถึงสถาปัตยกรรมภายในวัดพระแก้วว่ามีอะไรบ้างที่สามารถดึง ดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างมากมายขนาดนี้ อย่างเช่น

พระอุโบสถ


พระอุโบสถ สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๑ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระพุทธรูปปางสมาธิ ทำด้วยมณีสีเขียวเนื้อเดียวกันทั้งองค์หน้าตักกว้าง ๔๘.๓ ซ.ม สูงตั้งแต่ฐานถึงยอดพระเศียร ๖๖ ซ.ม ซึ่งประดิษฐานอยู่ในบุษบกทองคำ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นพระอุโบสถที่สวยสดงดงามมาก มีภาพเขียนปางมารวิชัยอยู่ทางด้านทิศตะวันออก บานประตูพระอุโบสถและบานหน้าต่างประดับด้วยมุก มีลวดลายสวยงาม เป็นฝีมือในรัชกาลที่ ๑

พระระเบียง

พระระเบียง คือ พระระเบียงที่ล้อมรอบพระอุโบสถทั้ง ๔ ด้าน รอบพระระเบียงภายในมรภาพเรื่องรามเกียรติ์ตั้งแต่ต้นจบจบ มีโคลงสี่สุภาพจารึกลงบนแผ่นศิลาตามเสาอธิบายภาพประกอบ

ศาลารายรอบพระอุโบสถ

ศาลารายรอบพระอุโบสถ สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๔ ศาลาราบรอบพระอุโบสถมี ๑๒ หลัง ใช้เป็นที่อ่านหนังสือศาสนาให้ราษฎรที่ไม่รู้หนังสือฟังเวลามีงานหรือวัน สำคัญทางพระพุทธศาสนา จนเกิดมีประเพณีสวดโอ้เอ้ วิหารรายขึ้นที่นี่

หอราชพวศานุสรณ์

หอราชพวศานุสรณ์ สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๔ ตั้งอยู่บนกำแพงแก้วด้านหลังพระอุโบสถอยู่ทางทิศใต้ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำรัชกาลพระมหากษัตริย์กรุงรัตนโกสินทร์ ภายในเขียนภาพพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร

หอราชกรมานุสรณ์และพงษานุสร

หอ ราชกรมานุสรณ์และพงษานุสรณ์ สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๔ ตั้งอยู่บนกำแพงแก้ว ด้านหลังพระอุโบสถทางทิศเหนือ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปประจำรัชกาลต่างๆในสมัยอยุธยาหอหนึ่ง และในสมัยรัตนโกสินทร์อีกหอหนึ่ง ภายในเขียนภาพพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นฝีมือของขรัวอินโข่ง จิตรกรไทยที่มีฝีมือดีที่สุดในสมัยนั้น

สิ่งที่กล่าวมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวัดเท่านั้น แต่ยังมีสถาปัตยกรรมอีกหลายอย่างที่มีความสวยสดงดงามไม่แพ้กันเลยทีเดียว และที่สำคัญ วัดพระศรีรัตนศาสดารามยังเป็นวัดที่สำคัญและเป็นที่เชิดหน้าชูตาของบ้าน เมืองเรา ตลอดจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศอีกด้วย


วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ จะอยู่ใกล้ๆกับ สนามหลวง ,กระทรวงกลาโหม และวัดโพธ์ บรรยากาศภายในวัดอากาศไม่ร้อน แต่จะร่มรื่นเย็นสบาย ยกเว้นออกไปเดินกลางแจ้งหรือกลางแดดจะร้อนพอสมควร
ส่วนเรื่องการแต่งกายทางวัดพระแก้วจะมีข้อห้ามอยู่ว่า ห้ามสวมกางเกงหรือกระโปรงที่มีชายสูงกว่าเข่าทุกชนิด เสื้อที่เปิดไหล่ทุกชนิด รองเท้าที่เปิดส้นทุกชนิดและกางเกนยีนส์ขาดๆ อย่างเด็ดขาด เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ก่อนที่เราจะไปชมความสวยงามของวัดเราก็ควรที่จะแต่งตัวให้เรียบร้อย และเหมาะสมกับสถานที่ ๆ เราจะไปด้วยนะคะ เพื่อแสดงออกถึงความเป็นคนไทยที่รู้จักกาลเทศะและรักษาตามกฎระเบียบที่วัดได้ตั้งไว้ และที่สำคัญ ยังทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีความประทับใจในความเป็นระเบียบของพี่น้องชาวไทยอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือว่าชาวต่างชาติที่มาเที่ยววัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้วนี้ สิ่งที่ทุกคนจะได้รับกลับไปก็คือ ได้เห็นความสวยสดงดงามของศิลปวัฒนธรรมไทยที่หาดูได้จากที่ไหนไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นใครมาจากประเทศไหนก็ตาม ที่มาเที่ยวเมืองไทยก็ไม่ควรพลาดที่จะเลือกมาที่นี่เด็ดขาด…….