Yesterday & Today // THE FABULOUS BEATLES BAND

ชายกลุ่มหนึ่ง...เป็นกลุ่มนักดนตรี
ที่เคยถูกปฎิเสธจากผุ้บริหารคนหนึ่ง จากบริษัทเดคคาเรคคอร์ติ้ง
ปฎิเสธด้วยเหตุผลที่ว่า
"เราไม่ชอบเสียงเพลงของพวกเขา และกลุ่มนักดนตรีที่เล่นกีตาร์กำลังจะหมดสมัยแล้ว"
ชายกลุ่มนั้น...มีนามว่า "เดอะ บีเทิลส์"
สี่เต่าทองแห่งตำนาน วงดนตรีที่อิทธิพลสูงสุดใน 1ศตวรรษที่ผ่านมา


- Introducing The Beatles

จุดเริ่มต้นของวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ เริ่มจากเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1956 John กับ Paul ได้รู้จักกัน และเริ่มแสดงดนตรีร่วมกันและเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 1958 George Harrison ได้เข้ามาร่วมวงอีกคน ขณะนั้นมีมือกลองชื่อ Pete Best และใช้ชื่อวงว่า Johnny And The Moondogs หลังจากนั้นไม่นาน ก็เปลี่ยนชื่อวงเป็น The Silver Beatles และเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พวกเขาได้ไปแสดงครั้งแรกที่ Carvern Club ใน Liverpool โดยใช้ชื่อ The Beatles

Brian Epstein เจ้าของร้านแผ่นเสียง NEMS สนใจและได้ไปดู The Beatles ที่ Carvern Club หลังจากนั้น The Beatles ก็ได้ทำสัญญากับ Brian Epstein โดย Brian เป็นผู้จัดการวง และเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 1962 The Beatles ได้ไปทดสอบเสียงกับ George Martin โปรดิวเซอร์ของ EMI ต่อมาเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1962 Ringo Starr เข้ามาเป็นมือกลองแทน Pete Best และเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1962 George Martin ก็เข้ามาเป็น Producer ให้กับ The Beatles โดยอัด Single แผ่นแรก Love Me Do และ P.S. I Love You ได้รับความนิยมอย่างสูง หลังจากนั้นก็มี Single ตามออกมาอีกมากมาย เช่น Please Please Me, From Me To You, She Loves You, Twist And Shout, I Want To Hold Your Hand, I Saw Her Standing There และอีกมาก ตอนนี้แฟนเพลงคลั่งไคล้ The Beatles มาก จนเกิดคำศัพท์ใหม่ในวงการที่เรียกกันว่า "Beatlemania" John Lennon กับ Paul Mccartney ได้รับการรับรองว่าเป็นนักแต่งเพลงอังกฤษดีเด่น

Album ชุดแรกของวงคือ Meet The Beatles ออกในปี ค.ศ. 1964 ช่วงนี้เพลงของพวกเขาขายได้ดีมาก และเร็วมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากนั้นเพลงของพวกเขาทั้ง Single และ Album ก็ดัง และขายดีทุกชุด นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ ในวงการดนตรีทีเดียว

อย่างไรก็ตามเบื้องหลังความสำเร็จของ The Beatles คือการมีสุดยอด Producer ที่ชื่อว่า George Martin และผู้จัดการคนสำคัญที่ทำให้ The Beatles โด่งดังไปทั่วโลกคือ Brian Epstein (Brian เสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 1967) George Martin ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ และชื่นชมใน The Beatles มาก

The Beatles ได้สร้างภาพยนตร์ไว้หลายเรื่องเช่นกันคือ
1. A Hard Day's Night
2. Help!
3. Magical Mystery Tour
4. Yellow Submarine
5. Let It Be

พวกเขาเล่นดนตรีร่วมกันครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1969 บนหลังคา Apple ของพวกเขาเองใน London (จะหาดูได้จากภาพยนต์ชุด Let It Be ซึ่งเป็นอัลบั้มชุดสุดท้ายของพวกเขา และเป็นชุดที่ 13 พอดี)

ในช่วงเวลาของ The Beatles (ค.ศ.1962-1970) พวกเขามีเพลงที่ได้รับความนิยมมากมายดังที่เราทราบกันอยู่ พวกเขาได้สร้างเพลงที่มีคุณค่าเอาไว้มากมาย นับเป็นมรดกสำคัญในวงการดนตรีเลยที่เดียว และเป็นเรื่องที่น่าแปลก แม้ The Beatles จะแตกแยกกันไปถึง 30 กว่าปีแล้ว แต่บทเพลงของพวกเขายังคงกล่อมชาวโลกอยู่ทุกวัน เพลงของพวกเขามีเสน่ห์ สามารถสะกดใจทุกคนที่ได้ฟัง มีความลงตัวทั้งในด้าน เนื้อร้อง ทำนอง เสียงประสาน การเล่น และเรียบเรียงดนตรี ดังนั้น บทเพลงของ The Beatles จึงเป็นอมตะเหนือกาลเวลา จนทำให้ The Beatles ถูกจัดว่าเป็นวงดนตรียอดนิยมอันดับ 1 ตลอดกาลของโลก

ปัจจุบันเพลงของ The Beatles มีอิทธิพลต่อการสร้างงานดนตรีของศิลปินรุ่นหลัง ๆ อย่างมาก และในหลายๆ ประเทศจะมีวงดนตรีที่เราเรียกว่า "The Beatles Tribute Band" มากมาย หลายวง รวมทั่วโลกคงมีเ
ป็นร้อย ๆ วง โดยวงเหล่านี้จะเล่นเฉพาะเพลงของ The Beatles




- Yesterday & Today The Beatles

Paul McCartney

พอลแยกตัวออกมาหลังจาก วงสีเต่าทองได้มีการแตกในปี 2513 และพอลได้ ร่วมกับภรรยา ลินดา แม็กคาร์ตนี ในเดือนเมษายน 2513 และได้ตั้งวง ที่มีชื่อว่า วิงส์(Wings) ในเดือนสิงหาคมปีต่อมา หลังจากวงแตกพอลก็ได้ออกมาเป็นศิลปินเดี่ยวจนมาถึงปัจจุบัน
เครื่องดนตรีของพอล พอล แม็กคาร์ทนี่ย์ ใช้ เบส Hofner ตั้งแต่ปี 1962 และได้ใช้มาตลอดในการแสดงจนถึงปัจจุบัน มีเพียงบางครั้งที่จะใช้ Rickenbacker 4001 bass ตัวนี้จะใช้งานในห้องอัด กีต้าร์ที่ใช้ก็จะมี
Gibson J160E และ Martin D-28 พอลเป็นมือกีต้าร์ที่ไม่มีความสนใจในเครื่องดนตรี อย่างกีต้าร์โปร่งสองตัวที่ได้กล่าวไว้ เป็นการซื้อตามเพื่อนไม่ใช้ความชอบส่วนตัวของพอล
รางวัล Awards พอลเป็นศิลปินที่ได้รับการบันทึกไว้ใน Guinness World Records ว่าเป็นนักดนตรีและนักแต่งเพลงที่ประสบความสำเร็จทีสุดในประวิติศาสตร์ดนตรีป๊อป ตามด้วยได้รางวัลแผ่นเสียงทองคำ 60 ครั้ง ขายได้กว่า 100 ล้านซิงเกิล รวมถึงเพลงที่พอลแต่งร่วมกับเลนนอน เป็นที่ถูกนำมาคัฟเวอร์มากที่สุดในโลก ถูกแพร่ภาพและเสียงในอเมริกากว่าเจ็ดล้านครั้ง
มากกว่านักดนตรี พอลนอกจากจะเป็นนักดนตรีแล้ว พอลยังเป็นจิตรกร นักกิจกรรมต่อสู้ด้านสิทธิสัตว์ นักมังสวิรัติ และพอลยังได้รับ
ตำแหน่ง “เซอร์” จากสมเด็จพระราชินีอังกฤษเมื่อปี ค.ศ.1996

Ringo starr

หลังจาก The Beatles แตกวงในช่วงยุค 1970 ริงโกก็ยังมีผลงานออกมาเรื่อยๆ มีหลายผลงานที่เป็นเพลงฮิตติดชาร์ต แต่จะเห็นได้ว่าหลายๆเพลงล้วนมาจากการแต่งเพลงของเพื่อนเก่าใน The Beatles อย่างเพลงที่ดังที่สุดของริงโกอย่าง Photograph ก็ได้ George Harrison มาช่วยแต่งให้ เพลง I’m the greatest เพลงที่ริงโกใช้ด่าพวกที่ดูภูกเขาก็ได้ John Lennon มาแต่งให้ อีกหลายๆเพลงก็เป็นเพลง cover หรือไม่ก็คนอื่นแต่งให้ ที่จะเป็นฝีมือการแต่งของริงโกเองก็มีอย่าง It don’t come easy ซึ่งว่ากันว่าเป็นฝีมือการแต่งของ George Harrison แต่ยกเครดิตให้ริงโก
ถือได้ว่าผลงานการเป็นศิลปินเดียวของริงโกนั้นไม่ค่อยประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ ผลงานที่ดีที่นำมาเป็นอัลบั้มรวมฮิตก็มีแค่ผลงานในช่วงแรกๆของการเป็นศิลปินเดี่ยว ประมาณยุค 70 แต่ริงโกก็ยังถือได้ว่าประสบความสำเร็จจากอิทธิพลใบบุญเก่าของ The Beatles

John Lennon

หลังจากวงแตก นอกจากนี้ยังคงออกอัลบั้มเดี่ยวที่มีชื่ออัลบั้มว่าImagine ตามด้วย Mind Games, Rock and Roll และ Walls and Bridge และยังเป็นนักปฏิวัติสงครามเวียดนามหลังย้ายเข้าไปอยู่ใน New York และมีลูกหนึ่งคนกับ Yoko Ono ชื่อว่า Sean Lennon ยังมีลูกเขาก็ได้หยุดการทำดนตรีถึง 5 ปีเพื่อทำหน้าที่ของพ่อ แต่หลังจากนั้นก็ผลิตผลงานเพลงของเขาต่อไป เพลงชื่อดังตัวอย่างเช่น Imagine ที่เสนอความเท่าเทียมกันของคนทั้งโลก ปราศจากเชื้อชาติ ต่อต้านสงคราม Lennon ถูกยิงเสียชีวิต บริเวณอพาร์ตเมนต์ของเขาที่กรุงนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา โดยมาร์ก เดวิด แชปแมน (Mark David Chapman) แฟนเพลงที่คลั่งไคล้เขา ตำรวจพบหลักฐานว่าแชปแมนติดยาเสพติด และมีอาการป่วยทางจิต วันที่เขายิงเลนนอนนั้นในมืออีกข้างเขาถืออัลบัม Double Fantasy ซึ่งเป็นอัลบัมล่าสุดของจอห์นกับโยโกะ และที่หน้าปกมีลายเซ็นของจอห์นซึ่งเซ็นให้เขาเมื่อคืนก่อนหน้านั้นอยู่ด้วย

George Harrison

หลังจากแยกกันจากวง จอร์จแสดงให้เห็นว่าเขามีหัวในการแต่งเพลงเก่งกาจไม่แพ้เพื่อนงานเดี่ยวของเขาอย่าง All Things Must Pass ได้รับความนิยมอย่างมากโดยเฉพาะเพลง My Sweet Lord ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ขณะที่ Living In The Material World อัลบั้มถัดมาขายได้ถึง 3 ล้านก็อปปี้ในสหรัฐ แต่หลังจากนั้นเมื่อจอร์จหันไปเข้าฌานพร้อมกับให้ความสนใจกับศาสนาฮินดูอย่างจริงจัง เขาก็หยุดงานดนตรีไว้เฉยๆ โดยอ้างว่าตนเองมีความเป็นคนสวนมากกว่าการเป็นคนบันเทิง และก็หันไปทำสวนอย่างจริงจัง พร้อมกันนั้นก็รับบทเป็นผู้สร้างหนังไปด้วย
เพื่อนสนิทของ จอร์จ แฮริสัน บอกหลังจากที่เขาเสียชีวิตเอาไว้ด้วยว่า แม้ตลอดเวลาที่เขาจะอยู่กับโรคร้ายอย่างมะเร็ง แต่ดูเหมือน จอร์จ ไม่เคยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเลวร้ายแต่อย่างไร คำพูดติดปากที่เขามีอยู่ตลอดเวลาเมื่อมีคนถามถึงมะเร็งที่เขาเป็นก็คือ
“ผมกำลังชดใช้กรรมเก่า”
และการที่เขาจากไปอย่างไม่มีวันกลับนั้นก็เป็นเพราะจอร์จได้ชดใช้กรรมของเขาจนหมดสิ้นแล้ว



- สมาชิกคนที่ห้าของเดอะบีทเทิลส์ ???

นีล แอสปินัล (NEIL ASPINAL) ตลอดระยะเวลา 47 ปี นีล แอสปินัล เปรียบเหมือนเพื่อนสนิท คนที่ไว้ใจ เขาไม่เคยหาผลประโยชน์กับชื่อเสียงของเพื่อนสมาชิก น้อยครั้งที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เขาทำงานตั้งแต่คนขับรถรับ-ส่งสมาชิกทั้งสี่ไปเปิดการแสดงตามที่ต่างๆ จนกระทั่งทำงานเป็นผู้บริหารองค์กร สร้างรายได้เป็นปึกแผ่นให้กับบริษัทแอปเปิล จนบริษัทมีมูลค่าถึง 2,000 ล้านปอนด์
นีลเรียนอยู่ชั้นเดียวกับ พอล แมคคาร์ทนีย์ ที่ LIVERPOOL INSTITUTE GRAMMAR SCHOOL ส่วนจอร์จ แฮร์ริสัน เรียนอยู่ต่ำกว่าชั้นหนึ่ง ทั้งสามสนิทกัน มักแอบไปสูบบุหรี่อยู่ข้างหลุมหลบภัยข้างโรงเรียน ส่วน จอห์น เลนนอน เรียนอยู่ที่ LIVERPOOL COLLEGE OF ART ซึ่งอยู่ติดกันกับ GRAMMAR SCHOOL ต้นปี ค.ศ. 1962 หลังจากเดอะบีทเทิลส์ออกงานฮิต LOVE ME DO ติดชาร์ต TOP 20 พวกเขาเริ่มเป็นที่รู้จักของแฟนเพลงทั่วอังกฤษ รวมทั้งอีกหลายประเทศในเครือจักรภพ งานแสดงมีเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย นีล แอสปินัล ยังทำหน้าที่ขับรถรับ-ส่งสมาชิกทั้งสี่ ดูแลด้านบริหาร
ปี ค.ศ. 1967 ไบรอัน เอ็ปสไตน์ เสียชีวิตกะทันหัน เนื่องจากเสพยาเกินขนาด นีล แอสปินัล ทำหน้าที่บริหารและดำเนินธุรกิจแทน ปี ค.ศ. 1968 เดอะบีทเทิลส์ฟอร์มบริษัท APPLE CORPS เพื่อดูแลกิจการธุรกิจด้านดนตรี นีล แอสปินัล ถูกเชิญให้มาเป็นผู้บริหาร ปีเดียวกันนี้ที่นีล แอสปินัล แต่งงานกับ SUZY ORNSTEIN ลูกสาวผู้อำนวยการสร้างบริษัทภาพยนตร์ยูไนเต็ดอาร์ติสต์ ทั้งสองเจอกันขณะที่เดอะบีทเทิลส์ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง A HARD DAY'S NIGHT และ HELP
นีลวางมือด้านบริหารมาทำโปรเจ็กต์กับจอร์จ แฮร์ริสัน ความสนิทสนมระหว่างนีลกับจอห์น พอล และริงโก ยังคงเต็มร้อย อัลเลน ไคล์น อยู่เกือบ 2 ปี ไม่สามารถแก้ปัญหาด้านการเงินให้กับ APPLE CORPS อีกทั้งเขามีความขัดแย้งกับพอลและจอห์น ประจวบกับเดอะบีทเทิลส์แตกวงในปี ค.ศ. 1970 คนที่สมาชิกทั้งสี่ไว้ใจที่สุดคือ นีล แอสปินัล นีลกลับมาบริหาร APPLE CORPS อีก
นีล แอสปินัล บริหาร APPLE CORPS จนกระทั่งปี ค.ศ. 2007 ขอลาออกเนื่องจากประสบปัญหาด้านสุขภาพ งานชิ้นโบแดงหลายชิ้นที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับ APPLE CORPS ได้แก่โปรเจ็กต์อัลบั้ม THE
BEATLES ANTHOLOGY ซึ่งมีทั้งซีดี ดีวีดี หนังสือ บทสัมภาษณ์บรรดาสมาชิกในช่วงต่างๆ กินเวลาร่วม 13 ชั่วโมง ในรูปแบบโฮมวิดีโอ อัลบั้มซิงเกิลอันดับหนึ่งชื่อ I จำหน่ายทั่วโลกกว่า 30 ล้านแผ่น รวมทั้งโปรเจ็กต์ LOVE ที่ทำร่วมกับ CIRQUE DU SOLEILนีล แอสปินัล ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ปอดอยู่หลายปี ครั้งสุดท้ายเข้าบำบัดรักษาที่ MEMORIAL SLOAN-KETTERING CANCER CENTER ในนิวยอร์ก จนกระทั่งจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนเสียชีวิตหนึ่งวัน พอล แมคคาร์ทนีย์ เพื่อนสนิท บินตรงจากลอนดอนเข้าเยี่ยมดูใจเป็นครั้งสุดท้าย มิตรภาพและความสัมพันธ์อันลึกซึ้งสลักอยู่ในข้อความหลังนาฬิกาข้อมือที่พอล แมคคาร์ทนีย์ มอบให้กับนีลก่อนเสียชีวิตไม่นาน "THANK YOU FOR THOSE 47 YEARS OF UNSWERVING LOYALTY"



Don't Let Me Down (Live On Roof Top)


Thank You Very Much
-
http://www.youtube.com/
- ไทยโพสต์
-
http://www.loghomerestaurant.com/

-คณะผู้จัดทำ

  • นายศักดิ์ณรงค์ พันเฟื่อง 48610118
  • นายเพิ่มศักดิ์ วรรณยิ่ง 48610131
  • นายศิวะ สะสม 48610113

  • นายปรีชพล สารธรรม 48610108

  • ??? ??? 48610191