วันหยุดสบายๆอย่างเสาร์-อาทิตย์เชื่อได้ว่าใครหลายคนคงมีกิจกรรมดีๆ เพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานในหลายวันที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนอยู่บ้านกับครอบครัว หรืออาจจะมีโปรแกรมเที่ยวต่างจังหวัด แต่หากใครยังไม่ได้วางโปรแกรมเที่ยวในช่วงวันหยุดนี้ การตระเวนไหว้พระขอพรจากสิ่งสิทธิ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่การเมืองกำลังวุ่นวาย การเข้าวัดทำบุญคงจะเป็นวิธีที่ช่วยให้จิตใจเราสงบขึ้นได้
“เยาวราช” ชุมชนชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและยังตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวง เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะมีวัดและศาลเจ้าสำคัญหลายแห่งจึงนับว่าเหมาะอย่างยิ่งกับกิจกรรมเข้าวัดทำบุญ
เริ่มต้นกันที่วัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเน่ยยี่ ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุงระหว่างซอยเจริญกรุง19 และ20 ซึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2414 ลักษณะของวัดเป็นสถาปัตยกรรมแบบวัดจีน หลังคามุงกระเบื้องลอนประดับลายปูนปั้นรูปสัตว์และเครือเถา พระประธานเป็นพุทธรูปสีทองแบบจีน ห้องโถงด้านหน้าพระอุโบสถตั้งฐานสำหรับสักการบูชา ด้านในประดิษฐานเทพเจ้าตามความเชื่อในลัทธิเต๋าและเทพเจ้าพื้นเมืองของชาวจีน ได้แก่ เจ้าแม่กวนอิม, ไท้ส่วยเอี๊ยะ เทพเจ้าแห่งดวงชะตา, ไฉ่ซิ้งเอี๊ยะ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ, พระเมตไตรโพธิสัตว์ เป็นต้น
เมื่ออิ่มบุญกันถ้วนหน้าแล้วก็ถึงเวลาที่เราจะได้แบ่งปันความสุขให้กับผู้อื่น กับพิธีทิ้งกระจาดวิญญาณที่ ศาลเจ้าไต้ฮงกง ตรงข้ามกับมูลนิธิป่อเต็กติ๊ง ซึ่งเป็นการเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ล่วงลับไปแล้วและหลังจากเสร็จสิ้นพิธีทางมูลนิธิฯจะนำเครื่องไหว้ออกแจกจ่ายให้กับผู้ยากไร้ งานนี้ถือได้ว่าได้บุญ 2 ต่อเลยทีเดียว สำหรับเครื่องไหว้ทางมูลนิธิได้จัดเตรียม ข้าวสาร หมวกสาน กระดาษ รวมถึงบรรดาอาหารแห้งต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใจบุญซึ่งมีหลากหลายราคาให้ได้เลือกสรรกันตามกำลังศรัทธา
เส้นทางนักชิม
ช้งเช้ง!!ช้งเช้ง!!เสียงของคนไทยเชื้อสายจีนที่อยู่ในแถบนี้เรียกร้องขายของกันอย่างคึกคัก และเสียงของนักท่องเที่ยวที่ต่างพากันมาแวะเวียนเมื่อยามหิว แห่งนี้เป็นสถานที่มีอหารแบบจีนโบราณ มีทั้งสูตรต้นตำหรับดั้งเดิมหรือแบบดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัย ตรอกซอกซอย ตามถนนที่ลาดยาวเต็มไปด้วยของกินมากมายหลายขนาน และขึ้นชื่อว่าเป็นถนนสายนักชิมเพราะมีของกินมากมาย แต่ละร้านล้วนมีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของนักชินทั้งสิ้น
เรามาเริ่มเสาะหาร้านกันตั้งแต่ซอย เจริญกรุง21 เป็นซอยที่ถัดมาจากวัดมังกรที่มีชื่อเสียง เพื่อที่ทุกคนจะได้หาซอยกันง่ายๆ ปากทางร้านแรกเป็นร้านขายขนมที่มีชื่อว่าอิ๋วก้วยเป็นขนมของคนจีนสมัยโบราณ เจ๊เกียว เจ้าของร้านที่เปิดขายในเยาวราชมากกว่า 40 ปีเล่าให้เราฟังว่าขนมนี้มีขายมาตั้งแต่สมัยรุ่นคุณปู่คุณยาย ซึ่งเป็นขนมมงคลใช้ไหว้เจ้าขอพร ส่วนใหญ่มักนิยมไหว้ปลายปี พรที่ขอกันสวนใหญ่คือขอให้การค้าขายราบรื่นร่ำรวย
ถัดไปเป็นร้านขายขนมฮวงกั๊วเปี๊ยะ หรือ เซาปิ้ง คล้ายๆกบขนมที่สมัยนี้เรียกกันว่า ขนมโดเรม่อน ที่เป็นก้อนกลมๆมีไส้ต่างๆ ขนมนี้ก็เช่นกัน มีทั้งไส้เผือก และไส้ถั่วเหลือง ชิ้นจะพอดีคำ รสชาติกลมกล่อม มีส่วนผสมของแป้งหมี่ แป้งนุ่มกำลังดีไม่หนามาก กัดลงไปเราสามารถเจอกับไส้ได้เลย ราคาขายอยู่ที่ชิ้นละ 3 บาทเท่านั้น ราคาก็ถูกแสนถูก คนขายอาม่าก็ใจดี พูดจาไพเราะชวนน่าซื้อจริงๆคะ เราลองทานขนมหวานมา2ร้านแล้ว ร้านถัดมาเพื่อความไม่น่าเบื่อและให้ทุกคนได้ลิ้มลองอาหารทั้งทีต้องให้ครบ 5 หมู่ ร้านนี้จะมีคนเยอะมากมานั่งรอต่อคิวกัน ที่นั่งก็แน่เอี๊ยด! ท่าทางจะอร่อยเหาะ จริงๆ ขณะที่ยืนรอเราจะได้ยินเสียงของคนสั่งบ้างก็ว่า กระเพาะ หมูกรอบ ไส้ ไม่เลือด บ้างก็ น้ำข้น น้ำใส บ้างก็ว่าทุกอย่าง พิเศษ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากก๋วยจั๊บ เจ้าอร่อย มีสนนราคาขายอยู่ที่ 40 -50 บาทต่อถุงหรือต่อชาม
เมื่อเราเดินออกจากซอยมาได้เลี้ยวซ้ายเดินตามฟุตบาทมาเรื่อยๆอีกนิดหน่อยเราก็จะได้ยินเสียงเรียกร้องขายของอาแปะคนหนึ่งที่มีเสียงร้องเป็นเอกลักษณ์ คือภาษาไทยที่ค่อนข้างเพี้ยน เป็นลูกเล่นในการเรียกร้องลูกค้าอย่างน่าสนใจ เมื่อใครได้ยินก็คงต้องหยุดดูว่าอาแปะ คนนี้แกขายอะไร
เมื่อหยุดดูแล้วก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อยคือ ขนมที่เรียกว่า กะลอจี๊ ร้านนี้เป็นอีกร้านหนึ่งที่คนแถวนั้นรู้จักกันเป็นอย่างดีเพราะแกขายมานานกว่า 60 ปี อาแปะเล่าให้ฟังว่าแกเริ่มขายมาตั้งแต่อายุ13ปี ตอนนี้อายุถึง73ปีแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องบอกถึงรสชาติที่การันตีด้วยอายุการขายคงจะพอรู้กันอยู่แล้ว นอกจากรสชาติที่เป็นที่ยอมรับแล้วลีลาการขายนี่ไม่ได้โรยลาไปตามวัยเลย รอยยิ้มและเสียงที่สดใสบ่งบอกถึงความเป็นคนที่อารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลาถึงแม้จะอยู่หน้าเตาร้อนๆก็ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรเลย คงเป็นด้วยเหตุนี้ที่ทำให้อาแปะขายขนมดีอย่างเทน้ำเทท่า นอกจากขายที่นี้แล้วแกยังบอกอีกว่า มีคนมาสั่งหรือพาแกไปเปิดร้านขายตามงานต่างๆมากมาย น้ำเสียงแสดงได้ถึงความภาคภูมิใจอย่างมาก
เดินมาขนาดนี้ท่ามกลางอากาศที่ร้อนแสนร้อน และอิ่มด้วยหนังท้องตึงหนังตาเริ่มหย่อน แต่เราก็ยังไม่ย่อท้อ เดินหน้าต่อไป แต่เราจะเปลี่ยนซอยเดินกันบ้าง จึงเดินข้ามฝั่งถนนไป ฝั่งถนนแปลงนาม ที่มีร้านอาหารโด่งดังมากมายเช่นกัน เริ่มจากต้นซอย เป็นร้านที่สามารถมากินได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะเป็นที่รู้จักของนักท่องราตรี เพราะร้านนี้จะเปิดขายทั้งวันทั้งคืน และอาหารยังอร่อยถูกปากอีกด้วย มีกับข้าวให้เลือกหลากหลาย มีทั้งข้าวสวย ข้าวต้มแล้วแต่ชอบ
เที่ยวเยาวราชให้สนุก
เยาวราชถือเป็นสถานที่ที่อีกแห่งหนึ่งกรุงเทพฯที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพราะมีทั้งวัดและศาลเจ้าให้คนใจบุญได้เลือกแวะเวียนกันมาทำบุญ แต่ในการเดินทางเที่ยวเยาวราชแต่ละครั้งควรจะมีการเตรียมตัวสักเล็กน้อยเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียอารมณ์กับเหตุการณ์ที่ไม่คาดหวัง ซึ่งก็มีเคล็ด(ไม่)ลับง่ายๆที่จะทำให้เที่ยวได้อย่างสนุกสนานไร้ปัญหารบกวนใจ
1.วางแผนการเดินทาง
หากไม่ต้องการหมดสนุกกับการหลงทาง หรือคิดไม่ออกว่าเลือกเที่ยวที่ไหนก่อน ขอแนะนำว่าก่อนออกเดินทางควรวางแผนสักเล็กน้อยว่าเริ่มเที่ยวที่ไหนก่อนหลัง ส่วนเรื่องการแต่งกายนั้นก็สำคัญไม่แพ้กับการวางแผนการเดินเนื่องจากสถานที่ส่วนใหญ่เป็นวัดและศาลเจ้า จึงควรแต่งกายให้เหมาะสมกับสถานที่ ถ้าเป็นไปได้ กางเกงขาสั้น เสื้อสายเดี่ยวหรือแขนกุด ก็ของดแล้วกัน
2.ใช้บริการรถสาธารณะดีกว่า
ด้วยสภาพการจราจรที่ติดขัดเพราะเป็นย่านชุมชน ทำให้ค่อนข้างหาที่จอดรถได้ยาก ดังนั้นหากไม่ต้องการเซ็งกับปัญหารถติดควรใช้บริการรถสาธารณะ อย่างรถเมล์, มอเตอร์ไซต์รับจ้าง หรือ ตุ๊กตุ๊ก แถมยังได้อรรถรสในการเที่ยวเยาวราชไปอีกแบบที่สำคัญยังประหยัดเงินค่าน้ำมันอีกด้วย
3.จับจ่ายอย่างพอดี
นอกจากวัดและศาลเจ้าแล้วเยาวราชยังมีอาหารอร่อยๆขึ้นชื่อมากมายให้ได้เลือกชิมกัน แต่ก็อย่าสนุกกับการชิมกันจนเพลินลืมดูงบประมาณในกระเป๋า เพราะเงินค่าขนมของคุณอาจจะหมดไปภายในพริบตา ทางที่ดีควรไปกับเพื่อนเยอะ แล้วแบ่งๆกันซื้อจะดีกว่า
4.ระวังมิจฉาชีพ
ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะเยาวราชผู้คนค่อนข้างพลุกพล่าน ซึ่งพวกมิจฉาชีพอาจจะแฝงตัวมาในรูปแบบของนักท่องเที่ยว ดังนั้นก็ควรระมัดระวังทรัพย์สินของคุณด้วยอย่าสนุกจนเพลินลืมห่วงของในกระเป๋า และหากมีปัญหาอะไรที่ไม่ชอบมาพากลก็รีบแจ้งตำรวจทันที
5.พกพัดติดมือ
ด้วยอากาศที่ค่อนข้างร้อนแถมยังต้องเดินเบียดเสียดผู้คน ปัญหาเหล่านี้อาจจะทำให้ใครหลายคนอารมณ์เสีย ทางเลือกที่คุณสามารถแก้ปัญหานี้ได้ คือ ควรเตรียมพัด หรือพัดลมมือถือ เพื่อดับร้อนระหว่างเดินทาง แต่ถ้าให้ดีก็น่าจะพกพวกยาดม ยาหม่องไปด้วย เพื่อเกิดหน้ามืดเป็นลมขึ้นมา
ลองนำเคล็ดลับดีๆเหล่านี้ไปปรับใช้ดู เพื่อจะได้เที่ยวเยาวราชกันอย่างสนุก แต่ที่สำคัญควรเที่ยวกันอย่างมีสติ เพื่อที่จะได้เป็นวันหยุดสุดพิเศษของคุณและครอบครัว
จัดทำโดย