Don't think just shoot



"Don't think just shoot"



วันนี้ความทรงจำของใครหลายคนอาจจะเลือนลางไปตามกาลเวลา แต่ “รูปภาพ” ที่ยังคงอยู่ก็สามารถย้อนเวลาให้เราได้นึกถึงความทรงจำในวันเก่าๆ ความสนุกสนาน ความโศกเศร้าเสียใจ รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะที่ยังคงติดอยู่กับภาพความทรงจำไม่มีวันเปลี่ยนแปลง


แต่ถึงอย่างไรโลกของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ถ้าพูดถึงอุปกรณ์ในการบันทึกภาพทุกคนคงนึกถึงกล้องดิจิตอลตัวเล็กๆหรือตัวใหญ่ๆที่มืออาชีพใช้ กล้องวีดีโอ กล้องมือถือและอื่นๆอีกมากมาย จนหลายคนพากันลืมกล้องฟิล์มที่ยังคงมีกลิ่นอายของความคลาสสิกจนหมดสิ้น แต่ปัจจุบันมีรูปภาพแปลกตาซึ่งยังคงใช้การบันทึกลงบนฟิล์มกำลังเป็นที่นิยม ภาพเหล่านี้มีจุดเด่นอยู่ตรงองค์ประกอบของภาพที่ซ้อนทับกัน สีเพี้ยนจัดจ้าน โดยพบเห็นได้มากมายทางอินเทอร์เน็ต หลายคนเรียกรูปภาพประเภทนี้ว่า “ถ่ายภาพแนวโลโม” หรือ “Lomography



จากภาพเหล่านี้ ทำให้ชาวโลโม่และกลุ่มคนทั่วไปหลงใหลและหันมาสนใจ “กล้องโลโม (Lomo)” มากขึ้น และ “กล้องโลโม (Lomo)” ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะไม่ทำให้คนที่คลั่งไคล้การถ่ายรูปผิดหวัง
เมื่อย้อนกลับไปกว่า 40 ปี กล้อง Lomo ออกแบบมาใช้ในกองทัพรัสเซีย โดย LOMO ย่อมาจาก Leningrad Optical Machinery Organization แปลว่า “รัฐวิสาหกิจแห่งเมืองเลนนินกราด” ที่ทำหน้าที่ผลิตเลนส์เพื่อใช้ในโครงการอวกาศของกิจการกองทัพ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2526 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงและอุตสาหกรรมของสหภาพโซเวียต มีคำสั่งให้หน่วยงาน LOMO เลียนแบบกล้องคอมแพคท์ของญี่ปุ่น ให้เร็วที่สุด ถูกที่สุดและมากที่สุด เพื่อแจกจ่ายให้พลเมืองรัสเซียทุกคนได้รู้จักการถ่ายรูป ตามสโลแกนเชิงเผด็จการว่า “คอมมิวนิสต์อันทรงเกียรติทุกคนควรมีกล้อง Lomo Kompakt Automat LC-A เป็นของตัวเอง” แต่ความยอดนิยมของกล้องตัวนี้แจ้งเกิดเมื่อ พ.ศ. 2535 นักศึกษาหนุ่มชาวออสเตรีย 2 คนเดินทางไปเที่ยวรัฐเซียแต่ลืมพกกล้องด้วย จึงไปซึ้อกล้อง Lomo มาโดยบังเอิญและพบว่ากล้องราคาถูกตัวนี้ ให้ภาพแปลกๆ และฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆอย่างสิ้นเชิง หลังจากนั้นไม่นานกระแสความนิยมใน Lomo ก็กระจายไปทั่วโลก ภายใต้แนวความคิดว่า "Lomography is an analog lifestyle product
หลายๆคนอาจจะยังสงสัยว่า Lomo คืออะไร ถ้าให้พูดถึง Lomo ก็คือการถ่ายภาพแบบตามใจฉัน ไร้ซึ่งกฎเกณฑ์ มีมุมแปลกๆ มุมก้ม มุมเงย มุมเสย มุมเฉียงรวมทั้งมุมทะแยง แล้วแต่ตามสะดวกในมุมมองของคนถ่ายเลย ไม่ต้องสนใจกับองค์ประกอบใดๆ หรือจะถ่ายแบบ Snap โดยการถ่ายรูปอย่างรวดเร็วโดยไม่มองผ่านเลนส์







การมาตีความกันว่า Lomo ต้องถ่ายอย่างไรคงเป็นเรื่องยาก เพราะไม่มีกฎใดๆเลย ตอบได้แต่ว่า "Don't think just shoot " ซึ่งแปลได้ใจความว่า " ถ่ายๆไปเถอะ ไม่ต้องคิดมาก" แค่ขอให้เวลาถ่ายภาพแล้วมีความสุขมากขึ้น เพิ่มความอิสระให้กับความคิด หรืออาจจะเรียกได้ว่า Lomo เป็นลัทธิความสุขนิยม ในรูปแบบของการถ่ายภาพ
“ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในกล้อง Lomo ที่มีรูปลักษณ์ทรวงทรง อ้วน เว้า เหลี่ยม สีสันที่บาดตา และขนาดที่เล็กกะทัดรัด สะดวกพกพาง่าย ความทรงจำครั้งแรกที่ได้ทำความรู้จักกับเจ้ากล้อง Lomo จากฟิล์ม 1 ม้วน ที่สามารถถ่ายทอดรูปได้ถึง 36 รูป แต่สิ่งที่ฉันได้คือ 0 รูป ฉันเสียรูปไปทั้งม้วนเลย แต่พอรู้จักทำความคุ้นเคยกับมันมากขึ้น ทีนี้เจ้า Lomo ก็ทำให้ฉันต้องพกติดตัวไว้เก็บภาพมันๆของชีวิตประจำวันอยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถทิ้งให้เจ้า Lomo นอนตายอยู่บ้านเฉยๆได้เลย สิ่งที่สนุกสุดๆของการถ่ายภาพ Lomo คงเป็นการได้รอลุ้นภาพจากร้านล้างรูป เพราะเราจะไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าสีจะออกมาเพี้ยนและจัดจ้านแค่ไหนบวกกับองค์ประกอบที่ซ้อนทับบ้างไม่ซ้อนบ้าง แต่ถึงอย่างไรเจ้า Lomo ตัวน้อย ก็ช่วยเติมความสนุกเมื่อกดชัตเตอร์ทุกครั้ง โดยไม่ต้องคำนึงถึงความเป็นมืออาชีพ ไม่ต้องสนใจหลักการใดๆทั้งนั้น และภาพทุกภาพก็จะปรากฏงานศิลปะดิบๆออกมาอย่างน่าหลงใหลเลยทีเดียว” หญิงสาวผู้คลั่งไคล้กล้อง Lomo เล่าให้เราฟัง













แถมท้ายนิดนึงกับหลักการถ่ายภาพของ Lomographic Society ให้ยึดถือปฏิบัติตาม กฎบัญญัติ 10 ประการ (10 golden rules of Lomography) ดังนี้
1.เอากล้อง Lomo ติดตัวไปด้วยในทุกๆที่ที่ไป เหตุการณ์สำคัญอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ต้องเตรียมตัวไว้ให้พร้อมเสมอ
2. ใช้ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน สีสัน และอารมณ์ ในทุกๆช่วงเวลา ของทุกๆวัน มักจะมีอะไรแปลกใหม่เสมอ
3.LOMOGRAPHY เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ว่าจะกิน จะเดิน จะพูด หรือแม้แต่จะคิด จงคิดถึง Lomograph ไว้เสมอ
4.ถ่ายโดยไม่ต้องเล็ง ลองถ่ายมุมมองอื่นๆบ้าง ในมุมที่กล้องเข้าไปได้แต่คนถ่ายไปไม่ได้
5.ถ่ายให้ใกล้ที่สุดเท่าที่จะทำได้ สร้างสัมพันธ์กับสิ่งที่จะถ่าย ทำความรู้จักกับมัน
6.ถ่าย!อย่าคิด (William Firebrace) ปล่อยให้การถ่ายภาพเป็นไปตามสัญชาติญาณของเราเอง ข้อนี้ยากที่สุด
7.รวดเร็วเสมอ สำหรับ Lomography แล้ว สิ่งที่เห็นครั้งแรก สำคัญและมีความหมายที่สุดเสมอ จงเชื่อมั่นในตัวเอง
8.อย่าไปคิดมากว่าจะได้ภาพออกมาเป็นแบบไหน นึกถึงความสนุกเข้าไว้ ภาพดีๆหลายๆภาพมักเกิดจากความไม่ตั้งใจ
9.หลังจากล้างภาพออกมาแล้ว ก็ไม่ต้องไปพยายามนึกถึงว่ามันคือภาพอะไร ดูเส้น ดูสี ดูองค์ประกอบ แล้วนึกถึงความสนุกที่ได้รับ
10.ไม่ต้องไปสนใจกฎใดๆทั้งสิ้น คิดกฎของตัวเองขึ้นมา สร้างงานถ่ายภาพที่ตัวเองค้นพบ ปล่อยใจให้สบายแล้วสนุกกับ Lomo ให้มากที่สุด
(http://www.lomothai.com/)
แต่ถึงอย่างไรแม้จะมีกฎบัญญัติ 10 ข้อนี้ เราก็ไม่ต้องไปยึดติดอะไรมากมาย เพราะเมื่อมีกล้อง Lomo อยู่ในมือ ให้ท่องไว้ในใจเพียงประโยคเดียว
"Don't think just shoot "



-------------------------------------------------------------------------------------------------

เพื่อนที่เริ่มสนใจกล้อง Lomo ขึ้นมานิดหน่อยแล้ว มาดูรูปทรงของตัวกล้อง Lomo ที่มีมากมายหลายแบบกันดีกว่า
















-------------------------------------------------------------------------------------------------

อยากมีกล้องไว้เก๊กเท่ๆก็หาซื้อได้ที่
* ร้าน Room ที่ Siam Discovery Center ชั้น 4
* ร้าน ARTS ROOM แถวข้าวสารถนนราชดำเนิน ถัดจากเซเว่นไปทางขวา 2 ห้อง
* ร้าน only lomo ที่มาบุญครอง ชั้น4 โซนโตคิว
* ร้าน FotoGuffy ซ.จุฬา 50 ซอยเดียวกับร้านกินดื่มสามย่าน
* ร้าน TCDC ชั้น 6 Emporium

เรื่องโดย
นาย นิฐินันท์ เลี้ยงพันธุ์ 48610096
นายวีรยุทธ บุณรัตนะชัย 48610097
นาย อนุกูล ผยุงแก้ว 48610120


-------------------------------------------------------------------------------------------------